เด็กน้อยมักจะมาคู่กับความซน บางวันเจ้าตัวน้อยของคุณแม่อาจกลับบ้านมาพร้อมกับแผลต่างๆตามตัว ซึ่งโอกาสลูกๆของคุณแม่จะเกิดแผลแบบนี้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ในบทความนี้ เราจะมาดูกันค่ะว่าเราจะทำการปฐมพยาบาลในกรณีที่เกิดแผลที่ผิวหนังอย่างไร
มาทำความรู้จักแผลที่ผิวหนังกัน
เมื่อเกิดแผลที่ผิวหนัง การยึดติดกันของชั้นผิวหนังจะมีการแยกออกจากกัน ส่วนแผลที่ผิวหนังที่ลึกยังสามารถทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (กล้ามเนื้อและกระดูก) และแม้กระทั่งอวัยวะได้ อันตรายที่เกิดขึ้นได้จากแผลที่ผิวหนังคือ การติดเชื้อ
เราควรทำอย่างไรบ้าง
- ดูลักษณะแผลว่าเป็นแผลเปิดหรือไม่ (เช่น แผลถลอก หรือแผลถูกของมีคมบาด)
- ดูว่ามีน้ำ (ก๊อก) อยู่ใกล้ๆ
A: หนังกำพร้า B: หนังแท้ C: เนื้อเยื่อ เช่น ไขมันและกล้ามเนื้อ
แผลที่ผิวหนังคือ A อาจมีบางส่วนของ B ที่เกิดความเสียหาย
ทำการรักษาในกรณีที่มีน้ำอยู่บริเวณใกล้ๆ
คุณควรทำอะไร?
- ในกรณีที่เลือดออกมาก ให้ทำการกดที่บาดแผล
- ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น (น้ำดื่ม) หากไม่มีก๊อกน้ำก็สามารถใช้น้ำดื่มจากขวดได้
- เช็ดบริเวณแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
- แผลรอยถลอกเล็กน้อยสามารถปล่อยให้แห้งจากอากาศได้
- สำหรับแผลถลอกที่รุนแรง ให้ทำการปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่ปลอดเชื้อ
ในหัวข้อ ‘เลือดออก (bloeding)’ คุณจะได้เรียนรู้ว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างในกรณีที่มีการเสียเลือดเป็นจำนวนมาก
หากไม่มีก๊อกน้ำก็สามารถใช้น้ำดื่มจากขวดได้เช่นกัน
ทำการรักษาในกรณีที่ไม่มีน้ำ
เฉพาะในกรณีที่ไม่มีน้ำก๊อก (หรือน้ำดื่ม) เท่านั้น ที่จะฆ่าเชื้อบาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ไร้สี
คุณควรทำอย่างไร?
- ให้ล้างแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (เมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว)
- เช็ดบริเวณแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด แผลถลอกเล็กน้อยสามารถปล่อยให้แห้งจากอากาศได้
- สำหรับแผลถลอกที่รุนแรง ให้ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่ปลอดเชื้อ
ผิวหนังรอบๆบริเวณแผลเล็กๆ สามารถทำความสะอาดได้ดีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนประกอบของคลอเฮกซิดีน (Sterilon©) หรือแอลกอฮอล์ 70%
A. ล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ไร้สี (Sterilon©)
B. ทำความสะอาดแผลด้วยแอลกอฮอล์ 70%
แผลที่ผิวหนังที่พบบ่อย
แผลถลอก (Schaafwonden)
ลักษณะของแผล
- แผลถลอกเป็นแผลที่ชั้นผิวหนังกำพร้า โดยที่ผิวชั้นบนมีการถลอก ผิวหนังชั้นหนังแท้อาจได้รับความเสียหายเล็กน้อย ทำให้เกิดเลือดออกเล็กน้อย
คุณจะทำอย่างไร?
- ในกรณีที่มีเลือดออกมาก ให้ทำการกดที่แผล
- ล้างแผลด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำดื่ม หากไม่มีน้ำอยู่ในบริเวณนั้น คุณอาจใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ไร้สีได้
- เช็ดบริเวณแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด แผลถลอกเล็กน้อยสามารถปล่อยให้แห้งจากอากาศได้
- ปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขนาดของแผลหรือหากทำความสะอาดแผลได้ไม่ทั่วถึง
A. แผลถลอก
B. แผลถลอกและสิ่งสกปรก ให้ขจัดสิ่งสกปรกที่ผิวหนังด้วยแหนบ
แผลถูกของมีคมบาด (Snijwonden)
ลักษณะของแผล
- แผลถูกของมีคมบาด คือ แผลที่ผิวหนังที่เกิดจากของมีคม เช่น มีดหรือกรรไกร ในแผลถูกของมีคมบาดเลือดเส้นเลือดใต้ผิวหนังจะมีการฉีกขาดซึ่งอาจทำให้บาดแผลมีเลือดออกมาก
คุณจะทำอย่างไร?
- รักษาแผลถูกของมีคมบาด เหมือนกับ แผลที่ผิวหนัง
- หากมีเลือดออกมาก ให้ทำตามที่คุณได้เรียนในหัวข้อ เลือดออก (Bloeding)
- นอกจากการพันผ้าพันแผลอย่างรวดเร็วแล้ว แถบเย็บยังสามารถใช้เพื่อหยุดเลือดไหลในบาดแผลเล็กๆ ที่มีขอบแผลแหลมคมได้
- เพื่อหยุดเลือดจากแผลถูกของมีคมบาดขนาดเล็ก สามารถทำการใช้ แผ่นปิดแผลแบบ hechtstrips แทน ผ้าพันแผลชนิด snelverband ได้
A. แผลถูกของมีคมบาด
B. ติดแผ่นปิดแผลแบบ hechtstrips ที่แผลขนาดเล็กจากของมีคมบาด
แผลถูกกัด-ข่วน (Bijt- of krabwonden)
ลักษณะของแผล
- เกิดจากการกัดหรือข่วนโดยสัตว์ เช่น ค้างคาว จิ้งจอก กระรอก สุนัข หรือแมว
- เกิดจากการกัดโดยคน
คุณจะทำอย่างไร?
- รักษาแผลถูกกัด-ข่วน เหมือนกับ แผลที่ผิวหนัง
- เด็กควรไปพบแพทย์ทันที หลังจากถูกสัตว์กัด (ค้างคาว จิ้งจอก กระรอก สุนัข หรือแมว) เพราะอาจเกิดบาดทะยักหรือโรคพิษสุนัขบ้าได้
- ไปพบแพทย์ด้วยเช่นกัน หากคุณมีแผลถูกกัดจากการถูกคนกัด
A. แผลถูกกัดโดยสุนัข
B. ล้างแผลด้วยน้ำอุ่น
แผลพุพอง (Blaren)
ลักษณะของแผล
แผลพุพองแบบปิดหรือเปิด
คุณจะทำอย่างไร?
- ควรพยายามให้แผลพุพองยังคงสภาพเดิม (ไม่ไปทำให้มักแตก) ตุ่มพองนั้นสามารถทำหน้าที่ปิดแผลได้ดีมาก และช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ โดยทำให้สภาพแวดล้อมของแผลชื้น ลดความเจ็บปวด และต้องการการรักษาเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องรักษาเลย แผลพุพองจะแห้งเองอย่างช้า ๆ ให้ทำการปิดแผลพุพอง โดยใช้ พลาสเตอร์ปิดแผลธรรมดา พลาสเตอร์ชนิด strook kleefpleister หรือพลาสเตอร์ชนิด fixatiepleister พลาสเตอร์แบบ eilandpleister (พลาสเตอร์ปิดแผลพร้อมแถบกาวรอบด้าน) หรือพลาสเตอร์แผลพุพองแบบไฮโดรคอลลอยด์ชนิดพิเศษ (speciale hydrocolloïd blarenpleister)
- สิ่งสำคัญคือผ้าพันแผลต้องปิดแผลพุพองได้พอดี ไม่มีรอยย่น และไม่สามารถเคลื่อนไปมาได้ ยกเว้นพลาสเตอร์แผลพุพองแบบไฮโดรคอลลอยด์ (de hydrocolloïd blarenpleisters) ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งวัน
- หากแผลพุพองเปิด: ให้ทำความสะอาดแผลพุพองและปิดแผลพุพองด้วยผ้าพันแผลที่ปลอดเชื้อ (พลาสเตอร์)
- แผลที่หายได้ไม่ดีในผู้ที่มีระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีหรือผู้ป่วยเบาหวาน ในกรณีนี้แนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์
A. ผิวหนังเป็นแผลจากการเสียดสี
B. แผลพุพอง
การปิดแผลพุพอง
สามารถเลือกวัสดุหลากหลายชนิดในการปิดแผลพุพองได้ การเลือกใช้ผ้าพันแผลขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เท้าและระดับการรับน้ำหนักของเท้า
สิ่งที่สามารถใช้ได้
- พลาสเตอร์ปิดแผลธรรมดา
- พลาสเตอร์ชนิด strook kleefpleister หรือพลาสเตอร์ชนิด fixatiepleister
- พลาสเตอร์แบบ eilandpleister (พลาสเตอร์ปิดแผลพร้อมแถบกาวรอบด้าน)
- พลาสเตอร์แผลพุพองแบบไฮโดรคอลลอยด์ชนิดพิเศษ (speciale hydrocolloïd blarenpleister)
สิ่งสำคัญคือผ้าพันแผลต้องปิดแผลพุพองได้พอดี ไม่มีรอยย่น และไม่สามารถเคลื่อนไปมาได้ ยกเว้นพลาสเตอร์แผลพุพองแบบไฮโดรคอลลอยด์ (de hydrocolloïd blarenpleisters) ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งวัน
วัสดุที่สามารถใช้ปิดแผลพุพองได้
แผลถูกทิ่มตำ (Splinterverwonding)
ลักษณะของแผล
- ในกรณีของการเกิดแผลถูกทิ่มตำ คือ วัตถุได้เจาะผิวหนังบางส่วนหรือทั้งหมดไปแล้ว สามารถมองเห็นวัตถุได้อย่างชัดเจน วัตถุทั่วไปที่สามารถทำให้เกิดแผลเสี้ยนตำได้ เช่น ไม้ โลหะ หรือเบ็ดตกปลา
คุณจะทำอย่างไร?
- รักษาแผลถูกทิ่มตำ เหมือนกับ แผลที่ผิวหนัง
- วัตถุมักจะถูกนำออกจากผิวหนังด้วยแหนบในทิศทางตามยาว
- ในบางกรณีที่ไม่สามารถเอาเสี้ยนหรือเบ็ดตกปลาออกได้ หรืออาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้สูง (วัตถุที่เป็นสนิมทิ่มเท้า) ให้ทำการปรึกษาแพทย์
A. แผลถูกทิ่มตำ (Splinterverwonding)
B. นำออกจากผิวหนังด้วยแหนบในทิศทางตามยาว
แผลที่ผิวหนังที่มีวัตถุติดอยู่ (Huidwond met een voorwerp in de wond)
ลักษณะของแผล
- มีวัตถุ (ขนาดใหญ่) ติดอยู่ในแผล
- วัตถุขนาดเล็ก เช่น เศษแก้วหรือเสี้ยนตำเท้า
คุณจะทำอย่างไร?
- ไม่ควรดึงวัตถุที่ติดอยู่ในแผลออก
- ยึดวัตถุไม่ให้มีการเคลื่อนที่ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เนื้อเยื่อจะฉีกขาดหรือมีเลือดออกมากขึ้น
- หากเป็นวัตถุขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย (เช่น เสี้ยน) คุณอาจดึงออกได้
- ไปพบหมอบ้านเพื่อนำวัตถุนั้นออก
A. เศษแก้วในบาดแผล
B. ให้คงวัตถุไว้ที่แผลและพันด้วยผ้าพันแผล
การปฐมพยาบาล
การใส่ผ้าพันแผล ชนิด snelverband
วัตถุประสงค์:
- เพื่อปิดแผลที่ผิวหนังอย่างปลอดเชื้อ
วิธีปฏิบัติ:
- นำผ้าพันแผล ชนิด snelverband ออกจากบรรจุภัณฑ์ (A)
- วางส่วนที่เป็นผ้ากดแผลบนแผล (B)
- ถือปลายผ้าพันแผลที่สั้นที่สุดด้วยมือข้างหนึ่ง (B)
- ม้วนปลายด้านที่ยาวที่สุดรอบ ๆ ส่วนที่เป็นผ้ากดแผล (C)
- ยึดปลายด้วยพลาสเตอร์ปิดแผลชนิด kleefpleister (D)
การติดแผ่นปิดแผลแบบ hechtstrips
วัตถุประสงค์:
- เพื่อหยุดเลือดจากแผลขนาดเล็กจากของมีคมบาด
วิธีปฏิบัติ:
- ลอกฟิล์มป้องกันบางส่วนออกเพื่อให้สามารถหยิบออกได้ง่าย (A)
- จับแถบที่ปลายทั้งสองข้าง (B)
- อีกมือหนึ่ง ให้จับปลายอีกด้านของแผ่นปิดแผลโดยไม่สัมผัสผิวหนัง
- ยึดแผ่นปิดแผลไว้แล้วด้วยนิ้วชี้และกดขอบแผลให้ชิดกันด้วยนิ้วโป้ง
- ในขณะเดียวกัน ใช้มืออีกข้างดึงแถบออกเบาๆ แล้วติดปลายที่สองเข้ากับผิวหนัง
- หากจำเป็น ให้ซับแผลให้แห้งอีกครั้ง และทำซ้ำขั้นตอนก่อนหน้าโดยสลับไปมาระหว่างการวางแถบด้านซ้าย และ/หรือ ด้านขวา (C)
- เพื่อให้ปิดแผลได้อย่างแน่นขึ้น คุณสามารถติดแผ่นปิดแผลแบบกากบาทบนแถบที่ติดอยู่ได้ (D)
การเชื่อมระหว่างแผลที่ผิวหนังกับวัตถุที่ติดอยู่ในแผล
วัตถุประสงค์:
- เพื่อปกปิด/ยึดวัตถุที่ติดอยู่ในแผลให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
วิธีปฏิบัติ:
- ยึดวัตถุไม่ให้มีการเคลื่อนที่ (A)
- วางผ้ากดแผลติดกับวัตถุ (B)
- เติมเต็มในระดับความสูงระหว่างผิวหนังกับวัตถุทั้งสองด้านด้วย ผ้ากดบาดแผล ผ้าพันแผลแบบม้วน หรือพลาสเตอร์ปิดแผล (C)
- วางผ้าพันแผลอย่างระมัดระวัง (D)
- ไม่ควรกดผ้าพันแผลบนวัตถุ
ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อไรที่คุณจะทำการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ?
บางครั้งเป็นเรื่องที่ยากที่จะประเมินว่าเมื่อไรที่คุณควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และคุณควรโทรหาใคร ควรจะติดต่อ หมอบ้าน (huisarts) หรือ huisartsenpost หรือไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือโทร 1-1-2 ดีไหม? ในหัวข้อนี้คุณจะได้รู้ว่า เมื่อไรและใครที่คุณควรโทรหาในกรณีที่เกิดบาดแผลที่ผิวหนัง
โทรติดต่อ หมอบ้าน หรือ huisartsenpost ในกรณีที่:
- แผลไม่สะอาดหรือทำความสะอาดแผลได้ไม่ทั่วถึง
- มองเห็นกระดูก กล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอื่นๆ
- แผลที่ใบหน้า ดวงตา หรืออวัยวะเพศ
- แผลที่เกิดจากคนหรือสัตว์กัด
- วัตถุติดอยู่ในแผล
- แผลถลอกที่มีสิ่งสกปรกติดอยู่
- แผลที่หายได้ไม่ดี (เช่น จากการใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากการฉายรังสีหรือการติดเชื้อ