มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ และเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกและมักไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ล่วงหน้า ซึ่งช่วงอายุที่พบการติดเชื้อมากที่สุดคือ 18-28 ปีเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลา 5-10 ปี จนกระทั่งกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก
ขอบคุณรูปจาก https://www.ram-hosp.co.th/upload/ck/1574395208.jpg
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
- มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
- มีคู่นอนหลายคน
- สูบบุหรี่หรือคนรอบข้างสูบบุหรี่
เราจะสังเกตอย่างไรว่าเราอาจจะเป็นมะเร็งปากมดลูก
- มีตกขาวผิดปกติ
- เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
- ประจำเดือนมามาก
- มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
เราจะป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างไร
- เข้ารับการตรวจทางเซลล์วิทยา (Pap smear) ทุกๆ 5 ปี หรือตรวจหาไวรัส HPV
- รับวัคซีน HPV
- ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ เช่น ไม่เปลี่ยนคู่นอนหลายๆคน ออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือบริเวณที่มีการสูบบุหรี่
ขอบคุณรูปจาก https://ch9airport.com/wp-content/uploads/2019/02/15815.jpg
HPV หรือ Human Papillomavirus คืออะไร
HPV เป็นไวรัสชนิด DNA ที่ได้รับจากการสัมผัสโดยตรงจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในปัจจุบันพบว่า มีมากกว่า 140 types ซึ่งแบ่งเป็น สองกลุ่มหลักคือ
- High risk HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง
ประกอบไปด้วย HPV type 16, 18 ,31, 33, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 35, 66 (HPV type 16, 18 เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกคิดเป็น 70% จากไวรัสทั้งหมด) - Low risk HPV กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง
ตัวอย่างเช่น HPV type 6, 11 ซึ่งสองชนิดนี้สามารถทำให้เป็นโรคหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศได้
HPV ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกเพียงเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดมะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งอวัยวะเพศ
วัคซีน HPV
วัคซีน HPV ในปัจจุบันมีหลายชนิด ชนิดที่นิยมฉีดในไทยคือ GARDASIL 4 สายพันธุ์ (ครอบคลุมสายพันธุ์ 16, 18, 6, 11) และชนิดที่นิยมฉีดในเนเธอร์แลนด์คือ GARDASIL 9 สายพันธุ์ ( ครอบคลุมสายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58, 6, 11) ซึ่งสายพันธุ์ทั้งหมดนี้เป็นชนิดที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
การฉีดวัคซีน HPV ในเนเธอร์แลนด์
เด็กวัย 10 ปีขึ้นไปจะได้รับจดหมายเชิญจาก GGD (uitnodiging voor de HPV-vaccinatie) โดยที่เด็กอายุ 10-15 ปี จะได้รับวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน
ในขณะที่เด็กวัย 15 ปีเป็นต้นไป จะได้รับวัคซีน 3 ครั้ง ฉีดแบบ 0, 2, 6 เดือนตามลำดับ
วัคซีน HPV จะฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อต้นแขน โดยฉีดได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่มีข้อห้ามในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีน ซึ่งวัคซีน HPV สามารถป้องกันโรคได้นานกว่า 10 ปี และมีประสิทธิภาพป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% โดยไม่ต้องฉีดกระตุ้นซ้ำ
ขอบคุณรูปจาก https://media.nature.com/lw800/magazine-assets/d41591-022-00056-6/d41591-022-00056-6_20340448.jpg
สำหรับผู้ที่ย้ายมาอยู่เนเอร์แลนด์แต่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หากมีอายุ 18 – 26 ปี สามารถติดต่อ GGD เมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่เพื่อขอรับวัคซีน HPV ได้ฟรี (ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละ GGD) ถ้าหากอายุมากกว่า 26 ปีให้ติดต่อหมอบ้านของตัวเองและต้องจ่ายเงินเอง เนื่องจากเนเธอร์แลนด์ใช้ HPV vaccine ชนิด 9 สายพันธุ์ ราคาจึงสูงกว่าชนิด 4 สายพันธุ์ โดยเข็มแรก Dose ละ 167,69 Euro Dose 2 และ 3 เข็มละ 160,18 Euro รวมค่าใช้จ่าย 488,05 Euro ซึ่งราคาใกล้เคียงกับโรงพยาบาลเอกชนในไทย
ผลข้างเคียงมีเพียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม แดง คลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีไข้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อาจมีอาการรุนแรงในคนที่มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดอื่นๆ
คนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วยังคงสามารถฉีดวัคซีนได้ ประสิทธิภาพอาจไม่ได้สูงสุดเมื่อเทียบกับผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ซึ่งวัคซีนในปัจจุบันครอบคลุมหลายสายพันธุ์ แม้จะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไปแล้ว แต่ยังป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่นๆ ได้ หากอายุเกิน 26 ปีแล้วก็ยังสามารถฉีดวัคซีนได้เพื่อลดความเสี่ยงจากมะเร็งปากมดลูก ทำให้ร่างกายมีการตอบสนองในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส HPV
จากการศึกษาทางคลินิกพบว่าสามารถฉีดได้ แต่ต้องเว้นระยะ 1 ปีแนะนำให้ปรึกษาหมอบ้านของตนเพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นในการฉีดวัคซีน
ขอบคุณรูปจาก https://www.healthcareafrica.info/wp-content/uploads/2021/09/Gardasil.jpg
ในผู้หญิงที่มีลูกแล้ว หรือมีเพศสัมพันธ์มานานแล้ว จะได้ประโยชน์จากวัคซีนน้อยมาก การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (PAP smear) เพื่อตรวจให้พบระยะก่อนมะเร็งปากมดลูกและทำการรักษา
ในเนเธอร์แลนด์ การตรวจมะเร็งปากมดลูกจะตรวจทุกๆ 5 ปี ช่วงอายุระหว่าง 30 – 60 ปี ซึ่งจะได้รับจดหมายจาก RIVM ทุกๆ 5 ปีโดยสามารถเลือกได้ระหว่างเข้ารับการตรวจกับหมอบ้าน หรือจะรับชุดตรวจ screening มาเก็บตัวอย่างเองและส่งทางไปรษณีย์ไปตรวจ ถ้าคุณตรวจด้วยตัวเองและพบความผิดปกติจะต้องเข้าพบหมอบ้านเพื่อตรวจยืนยันอีกที ถ้าคุณไม่มีความผิดปกติ คุณจะได้รับผลตรวจ no HPV was found นั่นหมายถึงจะไม่มีมะเร็งปากมดลูกภายในระยะเวลา 10-15 ปี ในกรณีที่พบเซลล์ผิดปกติ คุณจะต้องเข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อทดสอบต่อไป
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
- https://rijksvaccinatieprogramma.nl/infectieziekten/HPV/afspraak-HPV-vaccinatie
- https://www.bangkokhospital.com/content/q-n-a-about-the-hpv-vaccine-9-strains
- https://www.nonthavej.co.th/cervical-cancer-1.php
- https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/112
- https://www.rivm.nl/en/cervical-cancer-screening-programme
อรพิชา เทียมผล
เรียบเรียง