เรื่องควรรู้ ก่อนมาเป็นออแพร์ (Au Pair) ที่เนเธอร์แลนด์

ออแพร์ (Au Pair) หรือพี่เลี้ยงเด็ก

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งประเภทวีซ่าที่น่าสนใจ ของประเทศเนเธอร์แลนด์กันนะคะ นั่นก็คือ ออแพร์ (Au Pair) หรือพี่เลี้ยงเด็กนั่นเองค่ะ เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ระยะเวลา 1 ปี เปิดโอกาสให้บุคคลอายุ 18-31 ปี ได้มาเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวยุโรป โดยที่เราจะได้พักอาศัยกับครอบครัวที่นี่ (host family) และมีหน้าที่หลักดูแลเด็กๆของครอบครัวและ ทำงานบ้านเพียงเล็กน้อยค่ะ โดยที่สัปดาห์หนึ่งจะต้องทำงานไม่เกิน 30 ชม. และมีวันหยุดอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ค่ะ

โดยได้รับค่าตอบแทน 340 ยูโรต่อเดือน
รวมไปถึงสามารถเลือกเรียนคอร์สภาษาดัชต์หรืออังกฤษได้โดยที่โฮสจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ อาจจะดูว่าได้เงินไม่เยอะเลย แต่ที่เราได้รับมากกว่าเงินนั่นก้คือประสบการณ์และโอกาสในการท่องเที่ยวที่ยุโรปค่ะ

ส่วนตัวเป็ดเองก็เคยมีโอกาสร่วมโครงการออแพร์ ที่เนเธอร์แลนด์เมื่อปี 2016 เป็นระยะ 1 ปี เช่นกันค่ะ ได้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวชาวดัชต์และเลี้ยงดูเด็ก 4 คนค่ะ

คุณสมบัติหลักๆสำหรับคนที่จะมาเป็นออแพร์นั้น นอกจากจะต้องรักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับเด็กแล้ว ก้จะต้องเป็นคนใจกว้าง เปิดใจและพร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ๆด้วยค่ะ เพราะการมาเป็นออแพร์นั้น เราต้องมาอยู่บ้านเดียวกับครอบครัวอุปถัมภ์(host family) นั่นเองค่ะ บางคนเวลาอยู่ที่ไทย ทำงาน 8 ชม. เลิกงานกลับบ้าน ทำตัวตามสบาย บ้านกับที่ทำงานคือคนละที่กัน แต่พอมาเป็นออแพร์ บ้านกับที่ทำงานคือที่เดียวกัน บางทีเลี้ยงน้องเสร็จมาเหนื่อยๆ เลิกงานอยากจะพักผ่อนแต่ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ได้เลิกงานซะที.. อ้อลืมไปอีกข้อค่ะ ออแพร์ที่เนเธอร์แลนด์จะต้องปั่นจักรยานเป็นด้วยนะคะ เพราะที่นี่คนใช้จักรยานเป็นหลักค่ะ

ในส่วนของหน้าที่ของออแพร์นั้น หน้าที่หลักๆของเราคือการดูแลเด็กของครอบครัวอุปภัมภ์ค่ะ โดยที่เนื้อหาของงานจะขึ้นอยู่กับอายุของเด็กเป็นหลัก เช่น หากอยู่ในช่วงวัยแรกเกิดถึงสองขวบ เราอาจจะต้องช่วย โฮสแม่ (host mother) ในการเปลี่ยนผ้าอ้อม พาเด็กเข้านอน เปลี่ยนชุดระหว่างวัน พาออกไปเดินเล่นรับอากาศที่สดชื่น หรือบางครอบครัวที่มีเด็กมากกว่า 1 คน เราก็จะไปช่วยดูเด็กอีกคนด้วย เพื่อช่วยโฮสแม่ได้มีเวลาดูลูกที่พึ่งเกิดมาในระหว่างที่โฮสแม่ลาคลอดค่ะ..
บางครอบครัวที่มีเด็กๆ อายุ 3-10 ขวบ หน้าที่ของออแพร์ก็จะไปเน้นในส่วนที่พาน้องทำกิจกรรมสันทนาการนอกบ้าน แต่งตัวให้เด็กๆ ก่อนไปโรงเรียน ทำอาหารเช้า เตรียมทำอาหารกลางวันให้เด็ก ไปรับเด็กๆหลังเลิกเรียน คอยดูแลความเรียบร้อยถ้าเด็กๆมีเพื่อนมาเล่นที่บ้านหรือแจ้งให้โฮสทราบถ้าน้องจะไปเล่นบ้านเพื่อน รวมไปถึงถ้าหลังเลิกเรียนเด็กๆต้องไปเล่นกีฬาหรือดนตรี ออแพร์อาจจะต้องเป็นคนปั่นจักรยานไปส่งเด็กๆด้วยค่ะ เกือบลืมพูดถึงไปเลยค่ะว่า ถ้าบางบ้านมีสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัขหรือแมว โฮสก็อาจจะขอให้เราช่วยดูแลด้วยนะคะ อย่างของเป็ดเอง ที่บ้านโฮสมีสุนัข 1 ตัวค่ะ โฮสจะขอให้ทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรือไปรับเด็กๆหลังเลิกเรียนให้พาสุนัขออกไปด้วยค่ะ

ส่วนงานบ้านจะไม่ใช่หน้าที่หลักของออแพร์นะคะ แต่ส่วนมากจะเป็นการทำให้บ้านเรียบร้อย รักษาความสะอาดทั่วไป ล้างจานเก็บจาน ทำความสะอาดห้องนอนตัวเองค่ะ งานส่วนนี้และงานทำกับข้าวจะอยู่ที่เราตกลงกันกับโฮสเมื่อตอนสัมภาษณ์ค่ะ คนดัชต์คุ้นเคยกับอาหารเอเชียโดยเฉพาะอาหารไทยอยู่แล้ว บางครอบครัวเคยมาเที่ยวประเทศไทย 2-3 ครั้ง และชอบอาหารไทยมากๆ เพราะฉะนั้นเขาอาจจะขอให้เราทำอาหารไทยเป็นมื้อเย็นด้วยก็ได้ค่ะ

พูดกันถึงเรื่องของภาษาในการสื่อสารก็เป็นส่วนสำคัญนะคะที่คนที่จะมาเป็นออแพร์จะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ดีพอสมควรเลยค่ะ เพราะเด็กๆที่เนเธอร์แลนด์ก้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เล็กๆอยู่แล้ว และหากเราสื่อสารได้ไม่คล่อง หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมากับตัวเองหรือกับครอบครัวโฮสก็จะทำให้เป็นปัญหาได้ค่ะ หรือบางบ้านอาจจะไม่ใช่ครอบครัวคนดัชต์แต่เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาหลักในการสื่อสารระหว่างเราค่ะ

ส่วนถ้าใครอยากจะเรียนภาษาพิ่มเติม ก็สามารถคุยกับโฮสได้ค่ะ ว่าเราเลือกจะเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาดัชต์ตามแต่สนใจ โฮสจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ 1 คอร์สตามที่กฎที่ได้กำหนดไว้ค่ะ หรือบางบ้านอยากจะเลือกเรียนสันทนาการด้านอื่นๆก็แล้วแต่จะไปตกลงกับโฮสเลยค่ะ

เรื่องต่อมาที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้นั่นก้คือโอกาสที่เราจะได้ไปเปิดโลกกว้าง ได้ท่องเที่ยวในยุโรปแบบไม่ยุ่งยากอีกต่อไปค่ะ เพราะบัตรผู้พักอาศัยในเนเธอร์แลนด์ที่ออแพร์มีนั้น ช่วยให้เราเดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศในเขตเชงเก้ง ( Schengen countries) แบบไม่ต้องขอวีซ่าเลยค่ะ ตามข้อตกลงของออแพร์นั้น โฮสจะต้องให้เราลาหยุด (vacation) ได้ 2 สัปดาห์ค่ะ จะลาแบบต่อเนื่องหรือทยอยลาก้ได้ค่ะ อยู่ที่ตกลงกับโฮสเลย ส่วนมากจะได้หยุดกันช่วงที่เด็กๆปิดเรียนพักร้อนและโฮสพาเด็กๆไปเที่ยวค่ะ หรือบางทีโฮสอาจจะชวนให้เราไปเที่ยวด้วยก้มีนะคะ ส่วนตัวเป็ดเอง ก้จะใช้วันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ เสาร์ อาทิตย์ เที่ยวภายในเนเธอร์แลนด์ นั่งรถไฟไปทางใต้บ้าง หรือมีนั่งรถไฟไปเบลเยี่ยมก็มีค่ะ ส่วนช่วงที่ลายาว ก้จะมีไปปารีส,ฝรั่งเศสช่วงหน้าหนาว 3 วัน ไปโรม, อิตาลี 1 สัปดาห์ค่ะ ก่อนจะขอลาไปเที่ยวก็จะคุยกับโฮสค่ะว่าจะไปช่วงไหนกี่วัน โฮสจะได้ลางานหรือจัดการตารางเวลาของเขามาดูเด็กๆช่วงที่เราไม่อยู่ค่ะ หรือช่วงที่เขาพาเด็กๆไปเที่ยวเราก็จะว่างค่ะ

ในส่วนของขั้นตอนดำเนินการเรื่องวีซ่านั้น หลังจากที่เราได้ผ่านสัมภาษณ์กับครอบครัวโฮสที่ประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว โฮสจะเป็นคนแจ้งเอเจนซี่ที่นี่ให้เป็นคนเตรียมเอกสารและติดต่อเราค่ะว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ ข้อกำหนดหลักๆสำคัญคือโฮสที่นี่จะต้องมีมีเอเจนซี่ในการดำเนินการด้านเอกสารเกี่ยวกับออแพร์ให้ค่ะ และเอเจนซี่นั้นๆจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนอยู่กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ด้วยค่ะ เอเจนซี่จะต้องส่งใบรายการมาว่ามีเอกสารอะไรบ้างที่เราต้องกรอก หลักๆก็จะมี ใบเกิด ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) ใบรับรองประวัติอาชญากรรม
ที่ต้องแปลและประทับตรากระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตเนเธอร์แลนด์ในประเทศไทยค่ะ ทางฝั่งของโฮสเองก็จะยื่นเอกสารในฐานะสปอนเซอร์ค่ะ จากนั้นเอเจนซี่จะแจ้งเราว่าเมื่อไหร่ที่เราจะต้องทำการนัดหมายไปยื่นเอกสารที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ในฐานะออแพร์ค่ะ หลังจากที่ยื่นเอกสารเรียบร้อยทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เราจะทราบผลประมาณ 2-3 สัปดาห์และได้รับใบอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศเนเธอร์แลนด์ในฐานะออแพร์ค่ะ

ประสบการณ์ที่ได้รับตลอดระยะเวลา 1 ปีที่เป็นออแพร์ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีค่ามากๆค่ะ ช่วยให้เราได้เห็นโลกในมุมที่ต่างออกไป ทัศนคติในการทำงานและดูแลเด็กที่ต่างจากเด็กไทย เปิดโลกกว้าง การเรียนรู้ที่จะปรับตัว เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ การอยู่ร่วมกันกับคนแปลกหน้าใต้ชายคาเดียวกันและการได้เที่ยวยุโรปอย่างที่เคยฝันไว้ตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ มันล้ำค่ามากๆเลย

หากใครสนใจจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก็กดเข้าไปตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ

https://ind.nl/en/exchange/Pages/Au-pair.aspx